เมนู

เวทยามิ อาตมาได้เสวยสุขทั้งนี้ เพราะอาตมาภักดีต่อบรมกษัตราธิราชโปรดปรานประทานให้
แก่อาตมา บุรุษผู้นั้นก็สุขเกษมเปรมใจ อปโร นโย ยังอีกนัยหนึ่ง ได้แก่บุรุษกระทำกุศลอันยิ่ง
ครั้นทำลายสหชาตนามกายตายไป ก็ได้ไปอุบัติบังเกิดในสวรรค์ชั้นเทวโลก เสวยทิพยสมบัติ
เกษมศรี สมงฺคีภูโต พร้อมเพรียงอิ่มเอิบด้วยเครื่องบำเรอกามคุณ เป็นที่รักแห่งเทพนิกรสุรางค์
นางฟ้า เทพบุตรผู้นั้นก็นึกในใจว่า ตัวอาตมานี้ได้เสวยทิพยสมบัติทั้งนี้ เหตุอาตมาได้กฤดา
การกุศลสิ่งนั้น ๆ ไว้แต่ก่อนมา จึงได้เสวยสุขเวทนานี้ ยถา อันนี้มีครุวนาฉันใด เวทนามี
ลักษณะเสวยอารมณ์ เหมือนบุรุษที่ได้สร้างกุศลฉะนั้น บพิตรพระราชสมภารพึงเข้าพระทัย
ด้วยประการฉะนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีได้ทรงฟัง ก็ทีพระทัยโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ สธุสะพระ
ผู้เป็นเจ้าวิสัชนาควรแล้ว
เวทนาลักขณปัญหา คำรบ 9 จบเท่านี้

สัญญาลักขณปัญหา ที่ 10


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประเสริฐด้วยปัญญาปรีชา อันว่าสัญญานั้นมีลักษณะประการใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้
ประเสริฐ สัญญาเมื่อบังเกิดมีลักษณะรู้ว่าแดง ว่าขาวเป็นต้น ว่าสีหม่นสีเหลืองประการใดก็ดี
สัญญานี้มีลักษณะรู้จักดุจพรรณนามาฉะนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์เลิศกษัตริย์ มีพระราชโองการตรัสว่า นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าอุปมาไป
ให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนจึงอุปมาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
สัญญานี้เมื่อจะบังเกิดนั้นมีลักษณะดุจภัณฑาคาริกบุรุษชาวคลัง คณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา ชาวคลัง
นั้นเข้าไปในคลังแล้ว ก็เห็นสิ่งของในคลังอันแดงเหลือขาวหงสบาท ก็รู้จักว่าสิ่งนั้น ๆ ฉันใดก็ดี
สัญญานี้ไซร้ก็มีลักษณะรู้จักว่าดำแดงขวาเหลืองเป็นอาทิเหมือนชาวคลังฉะนั้น ขอถวายพระพร

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นประชากร ทรงฟังก็โสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ สธุสะพระผู้
เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควร
สัญญาลักขณปัญหา คำรบ 10 จบเท่านี้

เจตนาลักขณปัญหา ที่ 11


ราชา สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา เจตนามีลักษณะประการใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร
ผู้ประเสริฐ เจตนาเมื่อจะบังเกิดนั้น เจตยิตลกฺขณา มีลักษณะยังตนและผู้อื่นให้ตรึกตรองซึ่ง
อารมณ์ อภิสงฺขารสหณลกฺขณา มีลักษณะประกอบตกแต่งด้วยตนเอง ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรตรัสว่า นิมนต์พระผู้เป็นเจ้ากระทำอุปมาให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรอุปมาว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร เปรียบ
ปานดุจชายผู้หนึ่งตกแต่งยาพิษกินเองแล้วให้ผู้อื่นบริโภคอีก อีกประการหนึ่ง ได้แก่บุคคลผู้
หนึ่งกระทำด้วยเจตนาของตนแล้ว ยังผู้อื่นให้ตรึกตรองกระทำการอกุศลด้วย ส่วนตนที่
ตรึกตรองกระทำเองก็ไปบังเกิดในทุคติจตุราบาย ฝ่ายคนทั้งหลายที่ตรึกตรองกระทำอกุศลตาม
ก็ไปทนทุกข์ในทุคติจตุราบายด้วยกัน นี่ว่าฝ่ายข้างอกุศล ทีนี้จะว่าโดยฝ่ายข้างกุศล ได้แก่บุรุษ
ผู้หนึ่งตกแต่งประกอบสัปปินวนีตะน้ำผึ้งน้ำอ้อยบริโภคเข้าไปเองก็อร่อย ยังคนอื่นให้บริโภค
ด้วยก็อร่อยฉันใด อุปไมยดังบุรุษผู้หนึ่งตรึกตรองกระทำซึ่งกุศลด้วยตนเอง ยังไม่หนำซ้ำ
ยังบุคคลผู้อื่นให้ตรึกตรองกระทำการกุศลด้วย ส่วนตนเองก็ไปสู่สุคติสวรรค์ ผู้อื่นซึ่งกระทำ
ตามนั้นก็ไปสวรรค์ด้วยกันฉันใด เจตนามีลักษณะตรึกเองแล้วให้ผู้อื่นตรึกด้วย และมีลักษณะ
แต่งตนเอง ดุจเปรียบมานี้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร ได้ทรงฟังก็โสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ สธุสะพระ
ผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควร
เจตนาลักขณปัญหา คำรบ 11 จบเท่านี้